การเผาศพสุนัขอาจจะเริ่มมาจากการมีข้อจำกัดของพื้นที่ที่จะใช้ฝังกลบร่างอันไร้วิญญาณของสุนัขและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ ที่พื้นดินถูกนำไปสร้างสิ่งก่อสร้างจนเกือบหมด หลังจากนั้นจึงมักจะเห็นผู้คนบางส่วนนำศพสุนัขไปทิ้งในที่ที่ไม่ควรทิ้ง จนเป็นการสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อมและผู้คน แต่เชื่อว่าเจ้าของสุนัขจำนวนมากคงไม่อยากทิ้งสุนัขที่แสนรักในรูปแบบนั้นเป็นแน่ เพราะความรักที่มีให้ไม่ต่างอะไรกับสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว หรือรักเหมือนลูกหรือหลานเลยก็ว่าได้ ต่อมาจึงได้เกิดความคิดที่จะประกอบพิธีกรรมให้กับศพสุนัขตามหลักศาสนาเหมือนกับที่ทำให้กับศพคนทั่วไปอย่างการเผาศพสุนัข เพื่อเป็นการตอบแทนความซื่อสัตย์ด้วยการส่งพวกเขาให้ได้พอเจอสิ่งที่ดี ๆ
เผาศพสุนัขไม่ใช่เป็นเพียงแค่เหตุผลของคนรักสุนัขเท่านั้นแต่ยังเป็นเหตุผลของความเป็นสิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรเลือกทำให้กันในวันสุดท้ายของชีวิต
1.การเผาศพสุนัขสามารถามารถช่วยแก้ปัญหาที่นับวันจะมีเพิ่มขึ้นในสังคม เพราะสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงที่ตายแล้วและเมื่อถูกนำไปทิ้งขว้างเป็นขยะจะกลายเป็นขยะที่สามารถนำพาเชื้อโรคมาสู่คนและสัตว์อื่น ๆ ได้ อย่างเช่นการทิ้งลงแม่น้ำลำคลอง ทำให้เกิดการเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น เชื้อโรคระบาดได้ง่าย
2.ตามความเชื่อของคนไทยเรานั้น การตายจากไปจะสงบสุขได้ควรได้รับการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างถูกต้อง มีการสวดบังสุกุลและควรมีการขอขมา ขออโหสิกรรมต่อกันจะได้ไม่มีเรื่องติดค้างในใจต่อกัน การนำศพไปทิ้งจึงถือว่าไม่เคารพศพและอาจจะจากไปอย่างไม่สงบ
3.การเผาศพสุนัขสามารถทำให้เจ้าของและสุนัขที่เสียชีวิตได้มีโอกาสทำบุญสร้างกุศลร่วมกัน เพราะนอกจากปัจจัยค่าบริการที่ให้กับทางวัดแล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างอาชีพใหม่ให้กับผู้อื่นอีกด้วย เพราะทางวัดจะจ้างผู้ที่จะมาทำงานเป็นสัปเหร่อเผาศพ เก็บเถ้ากระดูก รวมถึงการจัดการด้านต่าง ๆ
เผาศพสุนัขตอบแทนความซื่อสัตย์และยังช่วยให้พวกเขาจากไปเพื่อจะได้พบแต่สิ่งที่ดี ๆ ภพภูมิใหม่ ซึ่งถ้ามีบุญวาสนาต่อกันก็อาจจะได้กลับมาพบกันอีกครั้งก็ได้ แล้วมาช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชาติภพใหม่ พระท่านจึงสอนว่าให้ทำดีต่อกันเอาไว้ดีกว่าการโกรธ เกลียดกัน เมื่อจากกันไปจะได้ไม่ผูกเวรกันข้ามภพข้ามชาติ ดังนั้นการเลือกใช้บริการเผาศพสุนัขและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างถูกต้องครบวงจร น่าจะเป็นสิ่งที่ควรเลือกให้กับสุนัขผู้ล่วงลับได้ดีที่สุดทางหนึ่ง
Leave A Comment